ต้องชี้แจงว่าในบรรดาวัตถุปูพื้นชนิดต่างๆ พรม ถือเป็นวัสดุที่ควรเลือกใช้งานมากที่สุด ด้วยอรรถประโยชน์ที่เหลือล้นของมัน ซึ่งจะมอบให้กับเราเวลานำไปปูพื้นสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่น พื้นที่ทำการ สำนักงาน หรือที่ใดก็ตาม โดยประโยชน์แรกที่ขอนำมากล่าวถึงเป็นจุดเด่นของพรมปูพื้นเลยก็คือ สัมผัสที่นุ่ม เมื่อเวลาเราเดินในพื้นปูน กระเบื้อง แน่นอนว่ามันจะค่อนข้างแข็งกระด้าง แต่กับเขตเป็นพรมนั้น ไม่ใช่เลยครับ เผื่อว่าเราเดินบนพื้นกระเบื้อง หรือพื้นปูนแล้วมาก้าวเดินบนพื้นประเภทนี้ จะรับรู้ได้ถึงความไม่เหมือนกันโดยชัดเจนที่สุดเลย ส่วนในคุณประโยชน์ต่อมาของพรมอีกก็คือ เรื่องของราคาที่ค่อนข้างถูก เราอาจจะปูพื้นห้องใดห้องหนึ่งสักห้องให้เต็มได้โดยใช้งบประมาณแค่หน่อยเดียวเท่า นั้น ไม่เหมือนจากพื้นหลายๆชนิดที่ราคามักจะแพง ซึ่งนี้ก็อาจเป็นสาเหตุที่ตามหน่วยงาน ที่ทำงานต่างๆมักจะพิจารณาใช้พรมปูพื้นแทน วัสดุปูพื้นแบบอื่น แล้วก็เพราะว่าผลประโยชน์ข้อถัดมาของมันอีกก็คือ ความงาม ต้องกล่าวว่าปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นวัสดุปูพื้นที่ให้ความสวยงามขึ้นมาได้ถนัด ตาทันทีที่ปูเสร็จเลย ทั้งในความน่าพึงพอใจที่จะได้รับจากการปูพื้นด้วยวัสดุลักษณะนี้ ยังไม่ต้องอาศัยเวลาเยอะแยะ หรืออาศัยความย้อนยอกในกรรมวิธีการปูดังเช่นวัสดุอย่างอื่นอีกด้วย
พรมปูพื้น” ใช้แต่งห้อง ไม่ว่าจะเป็นที่อาศัย หรือ คอนโด ต่างๆ ให้ดูงาม หรูหรา มีสไตล์แล้ว ยังเป็นของที่ใช้คุณค่าหลายอย่างดังเช่น นั่งหรือนอน ก็สามารถทำได้
วิถีทางเลือกพรมปูพื้น เพื่อคนที่ตั้งใจได้พรมปูพื้นบ้านสวย ๆ และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ควรเลือกสรรซื้อพรมปูพื้นยังไงมาดูกัน
1. เลือกซื้อให้เหมาะกับห้องหับ
เริ่มต้นที่ปลงใจซื้อพรมมาตกแต่งห้อง ควรนึกตรองจากส่วนประกอบให้ตรงตามแนวคิดที่วางไว้ ควรดูแบบของห้อง สีห้อง และการตกแต่งอื่นๆ แล้วคิดแบบพรมที่คุณสามารถระบุลาย สี และแบบของพรมปูพื้น ด้วยว่าห้องนอน จะมีไอเดียการปูพรมอยู่ 4 วิธีด้วยกัน
หากเป็นพรมตั้งแต่ขนาด 80x160 ซม. สามารถวางเตียงเดี่ยวพร้อมทั้งโต๊ะข้าง และม้านั่งชายเตียงไว้บนพรมได้ด้วย แล้วยังเหลือพื้นที่อีกเล็กน้อย
พรมขนาด 80x160 ซม หรือ 80x200 ซม ก็วางเตียงเดี่ยวได้เช่นกัน แต่จะมีส่วนหัวเตียงและโต๊ะข้างล้ำออกไปนอกพรม ด้านข้างและปลายเตียงจะมีพรมเหลือยื่นออกมา
สำหรับพรมขนาด 120x200 ซม.จะเหมาะสมกับเตียงคู่ สามารถปูแล้วยกเตียงวางบนพรมได้
โดยพรมขนาด 80x160 ซม. ขนาดเล็กเกินไปที่จะวางเตียงทับลงไป จะคัดเลือกวางไว้ตรงม้านั่งปลายเตียงเท่านั้น ส่วนด้านข้างเตียงปูด้วยพรมชิ้นเล็กด้านละผืน
2. พิจารณาใช้sizeให้เหมาะสม
วิเคราะห์ประเภทของห้องก่อนเรา มีพื้นที่ ที่จะปูพรม เท่าใด โดยให้เลือกปูให้พอดีกับขนาดของห้องเพื่อความน่ารัก
3. พรมสีไหนดี ?
สมมติคุณหมายมั่นให้ห้องมีมูดเย็นสงบควรปูพรมปูพื้นสีฟ้าหรือสีเขียว แต่ว่าหากห้องเล็กที่ประสงค์ทำให้ดูกว้างใหญ่ควรคัดปูพรมปูพื้นโทนสว่าง ส่วนห้องขนาดใหญ่ที่มุ่งหนุนอารมณ์อบอุ่นควรพิจารณาการใช้พรมสีทองหรือสีแดงอ่อน หรือหากผนังห้องตกแต่งไว้สีฉูดฉาดอยู่แล้วอาจจะคัดปูพื้นพรมสีเนื้อหรือสีครีมแทนก็ได้ ส่วนใครพึงประสงค์ปกปิดคราบสกปรกและต้องการให้ห้องมีบรรยากาศลึกลับน่าค้นหา เสนอแนะให้ปูพรมสีดำหรือสีเข้มไปเลยค่ะ แต่ยังไงก็ดี การพิจารณาสีของพรมก็ควรแมทช์กับสไตล์การตกแต่งภายในบ้านของท่านเอง
พรมปูพื้นสีขาวเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสริมจินตนาการสร้างสรรค์ และเหมาะกับเด็ก} โดยที่ต้องวางพรมปูพื้นขาวในบ้านที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และควรวางพรมในส่วนหน้าบ้านที่หันประเชิญหน้ากับทางทิศเหนือ เพราะจะช่วยทวีแสงสว่างในบ้านยิ่งขึ้น
สีเขียว สีนี้มีผลไปถึงความมั่งมี สุขภาพอนามัย และการเจริญก้าวหน้า เหมือนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ โดยควรใช้พรมปูพื้นสีเขียวตกแต่งในบ้านส่วนที่หันไปทางทิศตะวันออกและส่วนหน้าบ้านที่เจอหน้ากับทิศใต้
สีฟ้าและสีม่วงมีผลถึงการงาน ความมั่งคั่ง และโอกาสในชีวิต โดยวิธีในการทาสีควรทาในส่วนทิศเหนือ ทิศตะวันออก และส่วนหน้าบ้านที่หันหน้าทางทิศใต้
สีเหลืองและสีครีม สีนี้มีผลถึงความสัมพันธ์และความแข็งแรงในชีวิต ซึ่งถ้าจะให้ดีต้องใช้พรมสีเหลืองนี้ปูบ้านในส่วนที่หันไปทางอุดร ทิศทิศตะวันตก และบ้านที่ตั้งตรงข้ามกับทิศตะวันตกเฉียงเหนือ โดยหากอยากให้เด่นเรื่องความฉลาดและส่งเสริมเรื่องการเล่าเรียนควรเน้นการใช้พรมสีเหลืองหรือสีครีมเป็นหลักด้วยนะคะ
สีแดงและสีชมพู ด้วยว่าท่านที่ต้องการความจุดเด่น มีความมั่นคงในสถานะทางสังคม รวมไปถึงส่งเสริมเรื่องความรัก น่าจะใช้พรมเป็นสีแดงหรือสีชมพู โดยปูพรมในส่วนที่หันไปทางทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และส่วนหน้าบ้านที่ตั้งตรงกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
สีน้ำตาล ถ้าอยากได้เสถียรภาพในชีวิต ความเกี่ยวดอง และรากฐานของชีวิตที่แข็งแรงดั่งต้นไม้ใหญ่ที่ราบรื่นเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้พรมสีน้ำตาลอมเทาหรือสีกาแฟ โดยเลือกวางพรมสีนี้ในส่วนที่หันไปด้านทิศเหนือหรือทิศใต้ ซึ่งเป็นตำแหน่งของโลก และสีนี้ยังช่วยเกื้อหนุนความหนักแน่นให้ผู้หญิงในบ้านมากเป็นพิเศษด้วยนะคะ (บรรดาสาวๆจะมีอำนาจเพิ่มเป็นพิเศษ อิอิ)
ดังนี้แม้ตำแหน่งด้านทิศเหนือและทิศใต้จะเป็นทิศที่ตั้งของโลก แม้กระนั้นเราก็ควรหลีกเลี่ยงการวางพรมสีน้ำตาลหรือสีที่ใกล้เคียงกับไม้ เพราะเป็นสีที่ส่งผลกระทบทำให้ชีวิตเจอกับความทุกข์ยากและส่งผลร้ายไปถึงความรักได้เช่นกันค่ะ
4. ประเภทของพรมปูพื้นต้องคัดเลือกให้ดี
ทั้งนี้เพราะพรมปูพื้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายท่านเลยอาจงงงวยไม่รู้จะเลือกสรรพรมแบบไหนมาปูพื้นห้องต่าง ๆ ในบ้านดี แต่การตกลงใจเลือกใช้พรมที่ดูสวยและเหมาะกับสไตล์บ้านขนาดนั้นอาจจะไม่พอ เราต้องคัดปูพรมที่มีเส้นทอแน่นหนาจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้เห็นบุรอง เส้นพรมต้องนิ่มและฟูเพื่อให้รองรับแรงกระแทกได้ดี ที่ชัดเจนต้องให้สัมผัสนุ่มเท้าด้วย ซึ่งรูปพรรณพรมแบบนี้ควรจะใช้กับพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนเดินบ่อย เช่น ห้องนอน เป็นต้น ส่วนห้องที่ใช้มักจะมีคนเดินพลุกพล่าน เช่น ห้องครัวและห้องนั่งเล่น เหมาะเลือกคัดใช้พรมขนสั้นหรือพรมผิวเรียบเพื่อให้กำจัดฝุ่นและทำความสะอาดได้ง่ายแทน
5. พื้นรองพรมปูพื้นควรจะเป็นพื้นยาง
จริงที่ว่าของคุณลักษณะดีย่อมมีอายุการใช้งานที่แข็งแรงกว่าอยู่แล้วยิ่งถ้าเป็นพรมปูพื้นก็น่าจะต้องพิจารณาวัสดุที่บุรองด้วยความระมัดระวังสักหน่อย ในพรมปูพื้นแบบที่ดีควรเป็นแบบที่มีกันลื่นในตัว เพื่อให้เราแน่ใจได้ว่าพรมปูพื้นบ้านของเราจะไม่ผุพังในเร็ววัน เพราะวัสดุรองพื้นพรมที่ดีควรต้องเป็นพื้นยางชนิดดี ไม่เปื่อยยุ่ย ซึ่งจะช่วยให้พรมยึดพื้นบ้านได้อย่างแน่นกว่าวัสดุอื่น ๆ และนี้น้ำหนักสุทธิของพรมควรจะอยู่ราว ๆ 2.7-3.6 กิโลกรัม ควรมีเส้นไหมเป็นอย่างน้อย 3-4 เส้นไหม ต่อ 1 เส้นพรม
6. จำต้องรู้กระบวนการทำความสะอาดพรมอย่างง่ายไว้ก่อน
ก่อนตัดสินใจซื้อพรมปูพื้นมาตกแต่งบ้าน คุณควรสอบถามคนขายให้แน่ใจก่อนว่า พรมชนิดนั้น ๆ ต้องดูแลรักษาเบื้องต้นอย่างใด และกระบวนการการทำความสะอาดพรมที่ถูกต้องควรทำอย่างไร เพราะเฉพาะบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยงร่วมชายคาอยู่ด้วย คุณจำต้องต้องเรียนรู้แบบทำความสะอาดพรมและการดูแลพรมขั้นต้นไว้เอาเลย อีกทั้งอย่าลืมเลือกคัดพรมที่มีคุณลักษณะป้องกันคราบซึมเปื้อนมาใช้แทนพรมปกติด้วยนะคะ เพราะพรมที่มีคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้จะล้างได้ง่ายกว่า แถมยังช่วยย่นช่วงเวลาการทำความสะอาดของคุณให้น้อยขั้นตอนลงด้วย
ขอบคุณบทความจาก : http://www.carpetlovershop.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น